แลว่าโดยสภาวะที่เป็นธาตุ ๑๘ คือ
- จักขุธาตุ ธาตุ คือ ตา
- รูปธาตุ ธาตุ คือ รู สีสัน วรรณะ
- จักขุวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางตา,
- โสตะธาตุ ธาตุ คือ หู,
- สัททะธาตุ ธาตุ คือ เสียง,
- โสตะวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางหู,
- ฆานะธาตุ ธาตุ คือ จมูก,
- คันธะธาตุ ธาตุ คือ กลิ่น,
- ฆานะวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางจมูก,
- ชิวหาธาตุ ธาตุ คือ ลิ้น,
- ระสะธาตุ ธาตุ คือ รส,
- ชิวหาวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางลิ้น,
- กายะธาตุ ธาตุ คือ กาย,
- โผฏฐัพพะธาตุ ธาตุ คือ สิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยกาย
- กายะวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางกาย,
- มะโนธาตุ ธาตุ คือ ใจ,
- ธัมมะธาตุ ธาตุ คือ สิ่งที่รู้ได้ด้วยใจ,
- มะโนวิญญาณธาตุ ธาตุ คือ ความรู้อารมณ์ทางใจ,
สัจจะบัญญัติ,
บัญญัติอันเป็นอริยะสัจธรรมที่แท้จริงอันประเสริฐ ๔ ประการ
คือ (ทางเดินของพระอริยะ) ได้แก่
- ทุกขะสัจจะ ความจริง อันเป็นผลให้เกิดทุกข์
- สมุทยสัจจะ ความจริง คือ เหตุให้เกิดทุกข์ (ทุกข์เกิด)
- นิโรธสัจจะ ความจริง คือ ความดับทุกข์
- มัคคสัจจะ ความจริง คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
แลว่าด้วยความจริง คือ
- สมมุติสัจจะ จริงโดยสมมุติว่าเป็นคน เป็นสัตว์
เป็นนั่นเป็นนี่ มียศศักดิ์
เป็นนั่นเป็นนี่ มียศศักดิ์
- ปรมัตถะสัจจะ จริงโดยปรมัตถ์ว่าเป็น รูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ
สัญญา สังขาร วิญญาณ
อินทรียะปัญญัตติ,
ธรรมอันเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน โดยความหมายลบัญญัตติว่า
เป็นเจ้าการครอบงำเสียซึ่งธรรมตรงข้ามว่า ตาเป็นใหญ่ในการเห็น
หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน ประกอบด้วยอินทรีย์ ๒๒ คือ
เป็นเจ้าการครอบงำเสียซึ่งธรรมตรงข้ามว่า ตาเป็นใหญ่ในการเห็น
หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน ประกอบด้วยอินทรีย์ ๒๒ คือ
- จักขุนทรีย์ อินทรีย คือ ตา
- โสตินทรีย์ อินทรีย์ คือ หู
- ฆานินทรีย์ อินทรีย์ คือ จมูก
- ชิวหินทรีย์ อินทรีย์ คือ ลิ้น
- กายินทรีย์ อินทรีย์ คือ กาย
- มนินทรีย์ อินทรีย์ คือ ใจ
- อิตถินทรีย์ อินทรีย์ คือ หญิง
- ปุริสินทรีย์ อินทรีย์ คือ ชาย
- ชีวิตินทรีย์ อินทรีย์ คือ ชีวิต
- สุขินทรีย์ อินทรีย์ คือ สุข
- ทุกขินทรีย์ อินทรีย์ คือ ทุกข์
- โสมนัสสินทรีย์ อินทรีย์ คือ โสมนัส (สุขใจ)
- โทมนัสสินทรีย์ อินทรีย คือ โทมนัส (ทุกข์ใจ)
- อุเปกขินทรีย์ อินทรีย์ คือ อุเบกขา, (เฉย ๆ ไม่สุขไม่ทุกข์)
- สัทธินทรีย์ อินทรีย์ คือ ความเชื่อ,
- วิริยินทรีย์ อินทรีย์ คือ ความเพียร,
- สตินทรีย์ อินทรีย์ คือ ความระลึกได้,
- สมาธินทรีย์ อินทรีย์ คือ ความตั้งใจมั่น,
- ปัญญินทรีย์ อินทรีย์ คือ ปัญญา,
- อะนัญญะตัญญัสสามีตินทรีย์ อินทรีย์
คือ อัธยาศรัยที่มุ่งบรรลุมรรคผลของผู้ปฏิบัติ, (โสดาบัน)
- อัญญินทรีย์ อินทรีย์ คือ การตรัสรู้สัจจธรรมด้วยมรรค,
(โสดามรรค สกิทาคามรรค อนาคามรรค และอรหัตมรรค)
- อัญญาตาวินทรีย์ อินทรีย์ของพระอรหันต์
ผู้ตรัสรู้สัจจธรรมแล้ว
ปุคคะละ ปัญญัตติ,
บัญญัติอันจำแนกบุคคล แยกโดยธรรมมีประการต่าง ๆ ๑๐ บุคคล คือ
บุคคลที่มีจำนวน ๑ คือ
- สมสีสี ผู้มีความสิ้นอาสวะ และความสิ้นชีวิตมีพร้อมกัน
(ตายพร้อมสิ้นกิเลส ฯลฯ)
(ตายพร้อมสิ้นกิเลส ฯลฯ)
บุคคลที่มีจำนวน ๒ คือ
- โกธโน เป็นผู้มักโกรธ
- อุปนาโห เป็นผู้ผูกโกรธ ฯลฯ
บุคคลที่มีจำนวน ๓ คือ
- นิราโส ผู้ไม่มีความหวัง (ไม่สามารถเป็นอริยบุคคลได้)
- อาสังโส ผู้มีหวัง
- วิคตาโส ผู้ปราศจากความหวัง ฯลฯ
บุคคลที่มีจำนวน ๔ คือ
- สาวัชโช ผู้มีแต่โทษ
- วัชชะพะหุโล ผู้มากไปด้วยโทษ
- อัปปะสาวัชโช ผู้มีโทษน้อย
- อะนะวะวัชโช ผู้ไม่มีโทษ
ก็แลจตุกกบุคคล ๔ จำพวก คือ
- ตโมโชติปรายโน บุคคลมาที่มืด จะไปที่สว่าง
- โชติตมปรายโน บุคคมาที่สว่าง จะไปที่มืด
- โชติโชติปรายโน บุคคลมาที่สว่าง จะไปที่สว่าง
- ตโมตมปรายโน บุคคลมาที่มืด จะไปที่มืด
บุคคลที่มีจำนวน ๕ คือ
- ผู้ให้เขาแล้วดูหมิ่นเขา
- ผู้ดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกัน
- ผู้หูเบาเชื่อง่าย
- ผู้โลเลไม่แน่นอน
- ผู้โง่เขลาเบาปัญญา ฯลฯ
บุคคลที่มีจำนวน ๖ คือ
- พระสัพพัญญูตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง
- พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ไม่ประกาศพระศาสนา
- พระอัครสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
- พระอรหันต์ขีณาสพ ผู้ถึงที่สุดแห่งกองทุกข์
- พระอนาคามี ที่ยังไม่แจ้งถึงพระนิพพาน
- พระโสดาบันและพระสกิทาคามีไม่ทำที่สุดแห่ง
กองทุกข์ได้ในปัจจุบัน
กองทุกข์ได้ในปัจจุบัน
(ยังมีต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น